ถวายเกียรติแด่พระเจ้าสูงสุดด้วยการแสดงความรักต่อพระเจ้า ต่อผู้อื่นและ ร่วมสร้างอาณาจักรของพระเจ้า
ดูแลผู้ที่อ่อนแอสิ้นหวังให้ได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เกิดความหวัง, การเยียวยารักษาและความชื่นชมยินดีฝ่ายวิญญาณโดยฤทธิ์อำนาจของพระกิตติคุณ มีส่วนร่วมกับผู้คนและชุมชนด้วยวาจาและการกระทำ
เป็นเหมือนพระคริสต์: สะท้อนความรักของพระเยซูคริสต์ผ่านการรับใช้ผู้คนด้วยความรัก ความเห็นอกเห็นใจและความเมตตา ให้เหมือนกับที่องค์พระเยซูคริสต์ได้ทรงวางแบบอย่างไว้
ความรัก: มุ่งมั่นที่จะสำแดงความรักและสนับสนุนทุกคนทั้งทางร่างกาย, อารมณ์, จิตใจและจิตวิญญาณ โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ, ศาสนาหรือภูมิหลัง
ชุมชน: เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนอย่างมาก เมื่อเราได้มีส่วนร่วมในชุมชน ผ่านการร่วมงานกับภาครัฐ, ชุมชน, คริสตจักรท้องถิ่นและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ต่างๆ
ความซื่อสัตย์: ถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการปฏิบัติตามหลักจริยธรรมและกฎหมายอย่างดีที่สุด
ความไว้วางใจ: สร้างรากฐานที่ดี ด้วยการปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ, การรับฟังผู้อื่นและการเรียนรู้จากซึ่งกันและกัน
สามัคคีธรรม: ร่วมรับประทานอาหาร, ดื่มกาแฟและพูดคุย แบ่งปันประสบการณ์ของชีวิตต่อกันและกัน ซึ่งจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดี
มูลนิธิสานสัมพันธ์ครอบครัวมีรูปแบบที่ให้การสนับสนุนพันธกิจในการแบ่งปันความรักต่อคนไทย เราพยายามเปิดประตูสู่ชุมชนและครอบครัวด้วยการแบ่งปันความรักของพระเจ้า ผ่านการลงมือปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม (พันธกิจผ่านการกระทำ) เพื่อที่เราจะสามารถแบ่งปันพระกิตติคุณและสร้างสาวกในชุมชนที่ไม่มีผู้เชื่ออยู่ หรือมีอยู่น้อยมาก (พันธกิจผ่านพระคำ) เราไม่ใช่องค์กรที่เป็นเพียงเครื่องมือช่วยให้ได้รับสถานะทางกฎหมายเท่านั้น
พันธกิจหรือโครงการภายใต้มูลนิธิมีอิสระและเอกลักษณ์ในการรับใช้เฉพาะตัว แต่ก็เป็นไปตามโครงสร้างพื้นฐานมีกระบวนการทั่วไป ที่ช่วยให้เราสามารถรักษาความถูกต้องตามกฎหมายและความรับผิดชอบไว้ได้อย่างดี ซึ่งโครงสร้างนี้ได้รับการออกแบบมา เพื่อสนับสนุนให้โครงการสามารถรับใช้ตามรูปแบบที่พระเจ้าได้ทรงนำพวกเขา แม้ว่าแต่ละโครงการจะมีเป้าหมาย, มีผู้นำและพนักงานเป็นของตัวเอง แต่เราทุกคนก็ทำงานร่วมกันเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ และเป็นครอบครัวเดียวกัน
ใบจัดตั้งมูลนิธิสานสัมพันธ์ครอบครัวภายใต้กระทรวงมหาดไทยรวมถึงวัตถุประสงค์ทางกฎหมายดังต่อไปนี้ซึ่งได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและร่วมรณรงค์ให้สถาบันครอบครัวมีความเข้มแข็งและมีความอบอุ่น
เพื่อร่วมส่งเสริมงานของภาคเอกชนและภาครัฐบาลในการป้องกันและบรรเทาปัญหาสังคมทุกๆ อย่าง
เพื่อจัดตั้งสถาบันจัดอบรมด้านจริยธรรมการศาสนาและด้านศีลธรรมแก่ประชาชนเพื่อเสริมสร้างผู้นำที่ดี
เพื่อช่วยเหลือแก่เด็กและเยาวชนในด้านการศึกษา การกีฬา การวรรณคดี การศิลปะ การดนตรี และอื่นๆ
เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุน และดูแล ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ติดยาเสพติดและผู้ต้องขังให้ได้รับการฟื้นฟู
เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแนะนำแก่สังคมเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมอาทิปัญหาครอบครัวปัญหาการหย่าร้างปัญหายาเสพติด และอื่นๆ
เพื่อสนับสนุนและจัดอบรมงานไอทีให้แก่บุคคลทั่วไปและองค์กร ที่สนใจ
เพื่อช่วยเหลือจัดระบบและให้การอบรมการบริหารจัดการให้แก่องค์กรพันธมิตรของมูลนิธิฯ
เพื่อนำอาสาสมัครจากต่างประเทศเข้ามาร่วมดำเนินการและสนับสนุนโครงการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯและประสานความร่วมมือแบบบูรณาการในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อดำเนินการสาธารณะประโยชน์หรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ
ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
ในปี พ.ศ. 2545 ศิษยาภิบาลทิมและเดนิส ดันแฮม ได้เดินทางมารับใช้พระเจ้าที่คริสตจักร Chiang Mai Christian Fellowship Church ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 ได้ก่อตั้งมูลนิธิสานสัมพันธ์ครอบครัวขึ้น เป็นพันธกิจต่อยอดจากคริสตจักร โดยยึดหลักความเชื่อประการหนึ่งของคริสเตียนคือ พระเจ้ามีพระประสงค์ให้เรารักผู้คนในแบบที่พระองค์ทรงรักเรา ซึ่งนั่นหมายความว่า เราต้องสำแดงความรักความเมตตาต่อทุกคน โดยไม่คำนึงถึงภูมิหลังหรือสถานการณ์ของพวกเขา ไม่คำนึงว่าเป็นผู้ยากไร้, เด็กกำพร้า, ผู้ถูกขับไล่, เหยื่อการทารุณกรรมหรืออะไรก็ตาม จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงพันธกิจในท้องถิ่นเพื่อช่วยคนยากจนได้กลายเป็นมูลนิธิแนวหน้าในประเทศไทยที่มีเจ้าหน้าที่ชาวไทยถึง 80 คนและโครงการต่างๆ อีก 16 โครงการทั่วประเทศ ภายใต้พันธกิจร่วมกัน คือการรับใช้และรักผู้คนเช่นเดียวกับที่องค์พระเยซูคริสต์ทรงรักเรา
มูลนิธิสานสัมพันธ์ครอบครัวมี พันธสัญญาโลซาน เป็นคำแถลงจุดยืนทางความเชื่อ
